"TECHNO SHOWCASE"

 

TECHNO   SHOWCASE

งานที่เหล่านิสิต คณะศึกษาศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมกันจัดขึ้นมาเพื่อต้องการเผยแพร่ความเป็น เทคโน ให้กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ ประสบการณ์ ความสนุกสนานและกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย

 

บูทต่าง ๆ ที่มีในงาน TECHNO   SHOWCASE

• NOW YOU SEE ME   เกี่ยวกับการตัดต่อรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา
• DO YOU HEAR ME  เกี่ยวกับวิทยุเพื่อการศึกษา
• TECH FOR TEACH   เกี่ยวกับสื่อการสอน เทคนิคการสอน
• SEE SNAP  เกี่ยวกับภาพถ่ายทั่วไป และภาพถ่ายเพื่อการศึกษา และการถ่ายภาพ
• AWAY SO FAR เกี่ยวกับการศึกษาทางไกล
• X-PLORING TECH FOR FUN  เกี่ยวกับเกมส์ผ่อนคลายความเคลียด
• READ ME PLEASE  เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์
• AROUND THE WORLD  เกี่ยวโซเชียลกับการศึกษาทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างไร้ขีดจำกัด

           และด้วยตัวผู้เขียนเอง เป็นหนึ่งในสมาชิกการจัดงานครั้งนี้และมีหน้าที่หลักคือ เป็นสมาชิกใน บูทที่ชื่อว่า SEE SNAP เป็นบูทเกี่ยวกับการถ่ายภาพ การจัดแสดงนิทรรศการภาพ

SEE SNAP

การถ่ายภาพ

ภาพถ่ายแฟชั่น

ภาพภ่ายเพื่อการศึกษา
 

      เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คุณผ่านนิทรรศการการจัดแสดงภาพถ่ายโดยนิสิตภาควิชาเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา นอกจากนี้ SEE SNAP ยังยกสตูดิโอถ่ายภาพมาให้เหล่าคนรักการถ่ายภาพได้ Workshop ด้วยตัวเองใน
   
      และยังมีการให้เหล่าศิษย์เก่าและสิษย์ปัจจุบันร่วมส่งรูปถ่ายเพื่อจะใช้รูปมาจัดแสดงในบูท ตามโปสเตอร์นี้

     
       การที่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของบูท SEE SNAP ทำให้ได้รู้ว่าการทำงานนิทรรศการภาพภ่ายไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้ความละเอียด ถี่ถ้วนในการคัดสรรรูปที่คิดว่ามีความเหมาะสม อยู่ในหมวดหมู่ใกล้เคียงกัน และหน้าที่หลัก ๆ ของฉันก็คือนำรูปไปล้างที่ร้าน และช่วยเพื่อน ๆ ในบูทติดรูป ช่วยเก็บของ ทำความสะอาด ช่วยจัดบูท ช่วยเป่าลูกโป่ง ช่วยแจกแสตมป์คนที่มาชมบูท ช่วยให้คำแนะนำคนที่มาเยี่ยมชมบูท และเพื่อนให้ช่วยทำอะไรก็ทำ ยอมรับว่าเหนื่อยเหมือนกันแต่ก็สนุกดี ยิ่งตอนวันงานจริงทั้งสองวัน คนมาเยี่ยมชมบูทของเราเยอะมาก ๆ ความรู้สึกเหนื่อยเลยกลายเป็นตื่นเต้น ดีใจไปเลย รู้สึกภูมิใจและปราบปลื้มมาก ๆ ที่มีคนให้ความสนใจจำนวนเยอะเกินคาด อีกทั้งยังมีคนให้ความสนใจมาอยากลองเป็นช่างกล้องลองถ่ายรูป และมีคนใจอยากเป็นนางแบบ นายแบบ กันจำนวนมาก ต่างพากันมาถ่ายรูปกันเป็นกลุ่มเพื่อน มองแล้วก็น่าประทับใจ และน่าสนุกเวลาที่นางแบบ  นายแบบ ต่างโพสท่าทางต่าง ๆ นานา ราวกับมืออาชีพ

ช่างถ่ายรูปประจำบูทของเรา

สตูดิโอขนาดย่อมของบูทเรา

ขอขอบคุณ อาจารย์ที่ให้คำแนะนำในการจัดงานค่ะ
 

        ถ้าจะให้บรรยายถึงความรู้สึกคงมีมากมายไม่สามารถบรรยายได้หมด แต่ถ้าจะพูดโดยรวม ๆ ก็ยังยืนยันคำพูดเดิมว่ารู้สึกภูมิใจและประทับใจกับงานในครั้งนี้มากค่ะ เพื่อน ๆ ทุกคนต่างให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่สู้กันสุดความสามารถ ถึงแม้ว่าตลอดเวลาจะมีภาระหน้าที่งานอย่างอื่นด้วยก็ตามแต่เราทุกคนก็ช่วยกันให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และถือว่าผลตอบรับดีมาก ๆ สำหรับการจัดงานในครั้งนี้

เหล่าสมาชิกที่ร่วมกันจัดนิทรรศการครั้งนี้

 

"สึนามิ" ONLINE

นิทรรศการออนไลน์ หลายคนอาจสงสัยกันว่า

                  คืออะไร        ดียังไง      เป็นอย่างไร                   

เราลองไปหาคำตอบจาก บทความต่อไปนี้ได้เลย

 

• นิทรรศการออนไลน์ (E-Exhibition) หมายถึง การจำลอง หรือจัดแสดง เนื้อหาสาระหรือความรู้ในรูปแบบนิทรรศการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้จัดทำว่าต้องการจะนำเสนอเนื้อหาสาระใด ในการนำเสนอนั้น มีวิธีการ คือ จัดเก็บองค์ประกอบของเนื้อหาเป็น ข้อความ ภาพ หรือเสียง

• นิทรรศการออนไลน์ เป็นสื่อการเรียนรู้ประเภทหนึ่ง มีลักษณะเป็นสื่อผสม ที่ใช้วิธีการนำเอาเนื้อหาสาระหรือความรู้มานำเสนอไว้ให้ผู้ชมได้รับชมเพื่อสร้างทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน ซึ่งปัจจุบันนิทรรศการออนไลน์ เป็นเครื่องมือการสื่อสารที่ได้รับความสนใจ และมีบทบาทมากขึ้นทุกขณะ ทั้งในด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ ธุรกิจ สังคม การเมือง อุตสาหกรรม การแพทย์ สาธารณสุข และอื่น ๆ

• เสน่ห์ของนิทรรศการออนไลน์อยู่ที่ความพิเศษ ถ่ายทอดความเป็นไปต่าง ๆ ของสิ่งที่ต้องการแสดง ให้ผู้ชมได้เห็น ได้เข้าใจอย่างแจ่มชัด รวดเร็ว และเพลิดเพลิน ทั้งยังเป็นที่รวมของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทั้งยังเป็นเป็นวิธีที่สามารถสร้างโอกาสของการเห็นการรับชมได้ง่าย เป็นอัตโนมัติ มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน 

นิทรรศการออนไลน์ที่เลือกมาในวันนี้ เป็นเรื่องของ "สึนามิ"

 



      นิทรรศการออนไลน์ดังกล่าวมีความน่าสนใจและมีการจัดองค์ประกอบของเนื้อหาเป็น ข้อความ ภาพ และเสียงอย่างครบถ้วน น่าสนใจ ทำให้เข้าใจง่าย มีภาพอธิบายอย่างชัดเจน ประกอบด้วยหัวข้อดังต่อไปนี้
วิทยาศาสตร์ของสึนามิ      บันทึกสึนามิ      ก่อนสึนามิมาเยือน     หลังมหันตภัยจากไป
ทำให้เข้าใจถึงขั้นตอนการเกิดสึนามิได้อย่างง่ายดาย และหากผู้อ่านสนใจอยากรู้ อยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปอ่านและชมข้อมูลนิทรรศการออนไลน์ในรูปแบบเต็ม ๆ ได้ตามลิ้งต่อไปนี้ ได้เลยค่ะhttp://www.nsm.or.th/nsm2008/E-exhibition/tsunami/index.html

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.gotoknow.org/posts/237781


 

มีอะไรใน "ท้องฟ้าจำลอง"

กล่าวถึงประวัติท้องฟ้าจำลอง 

ในปี พ.ศ. 2505 คณะรัฐมนตรี ซึ่งมี ม.ล. ปิ่น มาลากุล เป็นรัฐมนตรีว่า การ กระทรวงศึกษาธิการ ในขณะนั้น ได้อนุมัติให้ กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการ สร้างท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ และหอดูดาว ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญ มีประโยชน์ อย่างยิ่งต่อการศึกษาวิชาภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ ตลอดจน เป็นแหล่งที่เยาวชน สามารถไปชุมนุมหา ความรู้ได้ง่าย เยาวชนจะได้เรียนจาก ของจำลองเหมือนของจริงทำให้เข้าใจได้ลึกซึ้งและรวดเร็ว กว่าการสอนด้วย ปากเปล่า ทั้งก่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความมีเหตุผลและความเพลิดเพลิน ด้วย กระทรวงศึกษาธิการได้มอบให้กองอุปกรณ์การศึกษา กรมวิชาการเป็น เจ้าของใน การก่อสร้างและดำเนินการ ต่อไป

คณะรัฐบาลได้อนุมัติให้ดำเนินการ ก่อสร้างเมื่อ วันที่ 30 มกราคมพ.ศ. 2504 โดยมีห้างบีกริม แอนโก กรุงเทพ จำกัด และตัวแทน บริษัท คาร์ลไซซ์ ในสหพันธรัฐเยอรมันเป็นผู้ดำเนินการก่อ สร้างพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ จนเรียบร้อย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว    ภูมิพลอดุลยเดชและพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรง ประกอบพิธีเปิดอาคารท้องฟ้าจำลองกรุงเทพเมื่อวันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2507 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิด อาคารท้องฟ้าจำลองกรุงเทพและ ทอดพระเนตรการแสดงทางท้องฟ้า วันที่ 18 สิงหาคม 2507 ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ เปิดแสดงให้บริการแก่ประชาชน ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2507 เป็นต้นมา
 

นิทรรศวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจในท้องฟ้าจำลอง

นิทรรศการวิทยาศาสตร์ อาคาร 1
ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ให้บริการความรู้ด้านดาราศาสตร์และอวกาศ ค้นหา พิสูจน์ ความลี้ลับของจักรวาลด้วยเครื่องฉายดาวและสื่อนิทรรศการดาราศาสตร์ “ชีวิตกับดวงดาว” โดยรอบโดม
1.  โลกดาราศาสตร์    2.    ชีวิตสัมพันธ์กับดวงดาว     3.   โลก : แหล่งกำเนิดชีวิตในระบบสุริยะ
4.   ชีวิตดาวฤกษ์         5.     ความเป็นไปในเอกภพ      6.     มนุษย์กับการสำรวจอวกาศ   

นิทรรศการวิทยาศาสตร์ อาคาร 2
       วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความสัมพันธ์กับทุกชีวิตพบกับเรื่องราวน่ารู้จากสื่อนิทรรศการหลากหลายค้นคว้า ทดลอง หาคำตอบ คำอธิบาย ที่พิสูจน์ได้ ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์

นิทรรศการวิทยาศาสตร์  อาคาร 3
     อาคารโลกใต้น้ำ เรื่องราวของความสัมพันธ์และความมหัศจรรย์ของชีวิตสัตว์และพืชที่น่าพิศวงของโลกใต้น้ำ สร้างความรู้สึกรักและเข้าใจธรรมชาติ ต้องการรักษาทรัพยากรอันทรงคุณค่าไว้กับโลกชั่วนิรันดร์ 
1.มหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ    2.ชีวิตในสายน้ำ                3.กิจกรรมอนุรักษ์                                                             
4.โลกนิเวศของสิ่งมีชีวิต      5.ชีวิตในแนวปะการัง       6.ห้องปฏิบัติการ/คลินิคของปลา 

นิทรรศการวิทยาศาสตร์  อาคาร 4
       ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติ ล้วนมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันทั้งยังเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับมนุษย์ทุกอย่าง ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เรื่องความเป็นไปในธรรมชาติ จึงเป็นสิ่งที่น่าเรียนรู้

นิทรรศการวิทยาศาสตร์  อาคาร 5,6

       วิทยาศาสตร์สุขภาพ  การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง วิทยาศาสตร์สุภาพให้ความรู้ในการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาอย่างถูกวิธี มาเล่นกีฬาและหาความรู้ได้จาก นิทรรศการ อาคาร 5,6 

1.ความเป็นมาของวิทยาศาสตร์สุขภาพ        
2.ทดสอบสมรรถภาพทากาย                                                                  
3.บริการอุปกรณ์ เพื่อการออกกำลังกาย      
4.ปีนหน้าผาและออกกำลังกายกลางแจ้ง                                                  
5.ฝึกอบรมเทนนิสเบื้องต้น ว่ายน้ำ เทควันโดเบื้องต้น ฯลฯ 

สิ่งที่ประทับใจมาก ๆ ในการไปท้องฟ้าจำลองคือ

เครื่องฉายดาวไซซ์ส รุ่นที่ 4

      ประดิษฐกรรมวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ประกอบด้วย ระบบเครื่องกล ระบบไฟฟ้า ระบบแสงที่ประณีตซับซ้อนสามารถแสดงดวงดาวในท้องฟ้า ของประเทศใดๆ ตามวัน เวลา ที่ต้องการ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต

 คุณสมบัติพิเศษ
-ฉายดาวฤกษ์ได้ 9,000 ดวง  
-ฉายดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์ 5 ดวง เคลื่อนผ่านกลุ่มดาวต่าง ๆ ได้ชัดเจน 
-ฉายภาพกลุ่มดาว ทางช้างเผือก กระจุกดาว ดาวหาง ดาวตก เมฆ แสงรุ่งอรุณ แสงสนธยา 
-แสดงการเกิดสุริยุปราคา จันทรุปราคา เส้นศูนย์สูตร เส้นสุริยวิถี เส้นเมอริเดียน ระบบสุริยะ โลกหมุนรอบตัวเอง

การไปชมท้องฟ้าจำลองครั้งนี้ทำให้ได้รู้ว่า.........

สมาชิกที่ไปด้วยกัน

คงไม่ต้องบอกว่าใคร แก่กว่าใคร

       การไปท้องฟ้าจำลองครั้งนี้ถือว่าเป็น “ครั้งแรก” ของฉัน เมื่อได้เข้าไปดูได้พบว่าท้องฟ้าจำลองมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายมันทำให้ฉันตื่นเต้นและความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กประถมในสมัยที่ครูชอบพาไป ทัศนศึกษากับเพื่อน ๆ ในโรงเรียนถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ยังคงจำความรู้สึกเหล่านั้นได้ดี คือเห็นอะไรก็อยากเข้าไปดู อยากไปจับ อยากเล่น อยากลองไปหมด มันทำให้ฉันเพลินเพลินและได้รับความรู้บางเรื่องที่ตัวฉันไม่เคยรู้มาก่อน และได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หรืออาจเคยรู้เคยเห็นแต่จำไม่ได้ ยิ่งตอนที่เข้าไปดูห้องท้องฟ้าจำลอง ยิ่งตื่นเต้นสุดๆไปเลย ห้องมืดและเย็นมาก ทำให้รู้จักหมู่ดาวต่าง ๆ มากขึ้นอีกด้วย สำหรับเพื่อน ๆ ผู้อ่านท่านไหนอยากลองย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กประถมเหมือนกับฉันลองไปสัมผัสกับความรู้สึกนั้นได้ที่ท้องฟ้าจำลองและหวังว่าคงจะประทับใจเหมือนกับฉันนะคะ วันนี้ต้องลาไปก่อนสวัสดีค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.sciplanet.org/main.php?filename=index

 

ต้องเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะออกมาเป็น Emoes

           

            ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ขณะที่กำลังเขียบบล็อกอยู่นี้ งานนิตยสารยังคงอยู่ในโรงพิมพ์ ตอนนี้ลุ้นมากเลยค่ะว่านิตยสารจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร จะออกมาแบบ Emoes Emoes หรือไม่ คงสงสัยกันว่าแบบ Emoes Emoes คือแบบไหน ก็คงจะเป็นแบบหลากหลายอารมณ์ มีเนื้อหาสาระที่แตกต่างหลากหลายอ่านแล้ว รู้สึกถึงอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง ที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเราทุกคน และตอนนี้ก็กำลังจะเดินทางไปรับนิตยสารที่โรงพิมพ์ ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นเข้าไปอีก พอไปถึงโรงพิมพ์ก็ไปรับนิตยสารตามปกติ แต่พอแกะดูเท่านั้นแหละ ตกใจเลยค่ะ เพราะว่ามันสวยอ่ะ ออกมาดูดี ฮ่าๆๆ (เข้าข้างตัวเองสุดๆ) แต่มันสวยจริงๆ เล่มหนาพอสมควรเพราะมีตั้ง 150 หน้า แต่ก็ดูไม่เยอะเกินไปหรอกนะคะ เพราะเนื้อหาของเรามีหลากหลายอ่านแล้วไม่น่าเบื่อหรอกค่ะ อีกทั้งยังมีนางแบบที่ดึงดูดความสนใจสุดๆ เลยค่ะ

                  หากจะพูดถึงความรู้สึกนั้นคงจะพูดกันยาวมากเพราะในขณะก่อนเริ่มทำนิตยสาร ขณะทำนิตยสาร และหลังทำนิยสารเสร็จ ต่างก็เกิดความรู้สึกที่แตกต่างกันทั้งนั้น เริ่มจากก่อนทำนิตยสารรู้สึกเป็นกังวล เครียด และท้อใจ ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำ ซึงเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากๆ เลยค่ะ แต่มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เพราะว่าคิดไม่ออกว่าจะทำออกมาแนวไหน เรื่องอะไร มันจะออกมาดีไหม มีคำถามในหัวเต็มไปหมด ในช่วงนั้นยอมรับเลยว่ากดดันมากๆ เพราะคิดจะทำยังไงก็กลัวว่าจะออกมาไม่ดี ไม่เพอร์เฟค แต่ในที่สุดก็ตกลงกันในกลุ่มว่าจะทำเรื่อง เกี่ยวกับอารมณ์ ต่อมาก็มีคำถามต่อว่าแล้วจะเป็นรูปแบบไหน ก็มีเพื่อนในกลุ่มเสนออกมาว่า รัก โลภ โกรธ หลง ไงมันน่าจะเป็นไปได้ สุดท้ายจึงตกลงปลงใจกันว่าจะทำนิตยสารที่เกี่ยวกับอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง หลังจากนั้นจึงแบ่งหน้าที่กันว่าให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มไปหาข้อมูลมาว่าหากจะเอามาสร้างเป็นคอลัมน์จะได้ออกมาเป็นคอลัมน์อะไรบ้าง เมื่อได้คอลัมน์ที่ช่วยกันคิดไว้ จึงได้เริ่มขั้นตอนต่อไปคือ

           

             ขณะทำนิตยสาร ยิ่งมีความกดดันเข้าไปอีกค่ะ เพราะงานวิชาอื่นก็เยอะเหมือนกัน จึงเริ่มกังวลใจว่าจะเสร็จทันตามกำหนดเวลาหรือไม่ แต่กังลวไปก็เสียเวลาเปล่าจึงลงมือทำเลยเริ่มจากคอลัมน์ สัมภาษณ์ศาสนาพุทธ ก็ได้ไปสัมภาษณ์พระอาจารย์ ที่วัดบวรนิเวศ และต่อมาก็ได้ไปสัมภาษณ์ศาสนาคริสต์ คือสัมภาษณ์ Elder (ผู้ถ่ายทอดคำสอนของศษสนาคริสต์)ซึงวันที่เดินทางไปสัมภาษณ์เหนื่อยมากๆ แดดร้อนมาก รอนานมาก และพอสัมภาษณ์เสร็จก็ไปลุยคอลัมน์ สถานที่บำบัดอารมณ์ต่อ นั่นก็คือ สวนจตุจักร ก็ต้องเดินรอบสวนเพื่อที่จะขอสัมภาษณ์ผู้เข้ามาใช้บริการว่ามีความประทับใจอย่างไรบ้างกับสวนจตุจักร หลังจากนั้นก็ไปคอลัมน์ร้านอาหาร ที่ตลาดรถไฟ คือร้านบะหมี่จอมพลัง ซึ่งต่อแถวนานมาก คนเยอะมาก รอจนเหนื่อย รอจนเพลีย รอจนท้อ คงพูดคร่าวๆ ละกันนะคะ เพราะหากจะบอกหมดว่าไปสัมภาษณ์ที่ไหนบ้างคงไม่ไหวมันเยอะมาก เพราะส่วนใหญ่ก็ออกไปสัมภาษณ์กันหลายที่ ขั้นตอนนี้ก็เป็นขั้นรวบรวมข้อมูล แต่บังเอิญว่ากลุ่มเราเน้นข้อมูลสด จึงต้องเดินทางออกไปด้วยตนเอง

เบื้องหลังการทำงาน

    จึงทำให้เหนื่อยมากๆ และเมื่อรวบรวมข้อมูลจนครบกันแล้วต่อมาก็เป็นขั้นตอนของการวางรูปเล่มนิตยสารซึ่งทีคิดไว้ตั้งแต่แรกคือจะให้สมาชิกในกลุ่มแค่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นคนวาง เพราะรูปแบบจะได้ออกมาเหมือนกันทั้งเล่ม แต่ที่ไหนได้กลับไม่เป็นเช่นนั้นเพราะ สมาชิกที่จะให้ทำก็มีงานรุมเร้าเข้ามา และด้วยจวนเวลาที่จะส่ง จึงคิดกันใหม่ว่าหากจะรอคงทำไม่ทันกำหนดเวลาส่งแน่นอน จึงตัดสินใจให้ทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องพักของฉันเพื่อที่จะมาช่วยกันวางรูปแบบหน้านิตยสาร เพราะฉันเองยอมรับเลยว่า ฝีมือการใช้ Photoshop ของตัวเองนั้นแย่มาก คิดอยู่ว่าจะทำได้หรือ ? แต่ก็คิดว่าไม่ได้แล้ว มันไม่ทันแล้วต้องช่วยกันทำ ซึ่งตอนแรกมี เก่ง เนย และฉัน รวมตัวกันที่ห้องพักของฉัน สามคนช่วยกันวางรูปแบบหน้าในนิตยสาร แต่จนวันก่อนสุดท้ายที่จะเข้าโรงพิมพ์จึงคิดได้ว่าทำไม ไม่ให้เพื่อนอีกสองคนลองมาทำดูเพราะมันยังเหลืออีกเยอะเลย จึงโทรเรียกมาช่วยทำ และเพื่อนทั้งสองคนคือ ปุ๊ย กับแอม ก็ช่วยกันทำ สรุปแล้วจึงช่วยกันทำทั้ง 5 คน ทุกคนต่างเคร่งเครียด ตั้งใจ ในการทำคอลัมน์ที่ตังเองต้องรับผิดชอบอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะปวดหลัง ง่วงนอน ก็อดทน เราทำกันเรื่อยๆ ผ่านไปหลายชั่วโมง เราเริ่มทำกันตั้งแต่ 11 โมงเช้า ทำไปเรื่อยๆ จนถึง 7 โมงเช้า จนทุกคนไม่ไหวจึงต้องแอบงีบหลับไปตามๆ กัน มันเป็นเหมือนช่วงเวลาที่เลวร้ายมากสำหรับฉัน ฉันทำงานมาเกือบหนึ่งอาทิตย์ นอนน้อย กินไม่อิ่ม ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ไม่มีเวลาคุยกับพ่อแม่ พูดได้เลยว่าท้อมาก กดดัน อยากจะร้องไห้ แต่พอเห็นเพื่อนทุกคนช่วยกันทำมันก็ทำให้ฮึดสู้ขึ้นมา เพราะคิดว่าเพื่อนยังทนได้ ทำไมเราทนไม่ได้ ทนเหนื่อยเอาหน่อยอีกไม่กี่วันเอง ก็จะเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะเสร็จแล้ว เพื่อนต่างก็ท้อไปตามๆ กัน แต่ก็คอยให้กำลังใจกันเสมอ

เบื้องหลังการทำงาน
 

บางทีเพื่อนแอบเผลอหลับ เราก็ต้องคอยสกิดให้ตื่นมาทำงาน รู้สึกว่าต้องมีความสามัคคีกันอย่างมาก ถึงจะผ่านมันไปได้ ทุกคนช่วยกันทำงานอย่างสุดความสามารถถึงแม้ว่าจะเป็นบ้างไม่เป็นบ้างก็ตามและสุดท้ายเราก็ช่วยกันวางรูปแบบหน้านิตยสารจนเสร็จ จนถึงวันที่ส่งโรงพิมพ์คิดว่าทุกอย่างจะดีแล้วแต่ไม่เลยค่ะ พอทางร้านเปิดให้ดูกลับมีข้อผิดพลาด แต่โชคดีที่พก Notebook ติดตัวไปด้วย จึงขอแก้ไขใหม่ และใช้เวลาแก้ไขในร้านเกือบประมาณ 3 ชั่วโมง เมื่อเสร็จจึงส่งไฟล์ให้ร้านเพื่อจะทำการตีพิมพ์นิยสาร แต่ทางร้านบอกว่าอาจจะไม่ได้ในวันจันทร์นะคะ เพราะเราไปส่งวันเสาร์ตอนบ่ายแล้ว ฟังแล้วรู้สึกใจแป้วมากๆ เพราะตามนัดส่งอาจารย์คือวันจันทร์ พยายามขอให้ทางร้านรีบทำให้แต่ก็ไม่ได้เพราะงานเค้าก็เยอะมาก เราเลยทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องตามคิวของทางร้าน แต่สุดท้ายแล้วลองโทรไปถามความคืบหน้าในวันจันทร์ตอนสายๆ ทางร้านก็บอกว่าเสร็จแล้วค่ะ มารับได้เลย ตอนนั้นถึงกับอึ้งไปเลยค่ะ ดีใจจนบอกไม่ถูก 

เบื้องหลังการทำงาน

                        และความรู้สึกหลังทำนิตยสารเสร็จและส่งอาจารย์แล้วนั้นคงจะบอกได้คำเดียวว่า ภูมิใจ ปลื้มใจ ดีใจ ประทับใจ บอกไม่ถูกเลย รู้สึกว่าโล่ง มีความสุข และยังได้รู้ว่าการได้ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนต่างกลุ่มนั้นมันมีความสุขมากๆ เพราะทุกคนช่วยเหลือกันด้วยความจริงใจ ทำงานกันอย่างสุดความสามารถและสุดท้ายอยากขอขอบคุณ อาจารย์นัทธีรัตน์ ที่ได้มอบหมายงานนี้ให้กลุ่มพวกเรา มันทำให้รู้ซึงถึงความอดทน ความพยายาม ความยากลำบาก ความเหน็ดเหนื่อย และ มิตรภาพที่ดี นั้นเป็นอย่างไรค่ะ 

เบื้องหลังการทำงาน
 

 

BEST IN CREATIVE USE OF DIGITAL TECHNOLOGY CANON AWARD

         สื่อสิ่งพิมพ์ในปัจจุบันนั้นมีหลายประเภท ได้แก่   

• สิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือ                
• สิ่งพิมพ์ประเภทเพื่อเผยแพร่ข่าวสาร 
• สิ่งพิมพ์โฆษณา 
• สิ่งพิมพ์เพื่อการบรรจุภัณฑ์ 
• สิ่งพิมพ์มีค่า 
• สิ่งพิมพ์ลักษณะพิเศษ 
• สิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์       

      วันนี้นำสิ่งพิมพ์เพื่อการบรรจุภัณฑ์ ที่ได้รับรางวัล เหรียญทอง มาให้เพื่อน ๆ ดูกันซึ่งคงเป็นที่คุ้นตากันอยู่แล้ว นั่นก็คือ สิ่งพิมพ์ของเนสกาแฟ นั่นเอง 

รางวัลเหรียญทอง  BEST IN CREATIVE USE 

OF DIGITAL TECHNOLOGY CANON AWARD

ผลงานสุดยอดความสร้างสรรค์โดยใช้เทคโนโลยีจากกล้องดิจิตอล แคนนอน

Entrant     :   บริษัท ทั้งฮั่วซิน จำกัด
Title         :   Nescafe Espresso Roast
Client       :   บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด
Design     :   Customer
Prepress   :   บริษัท ทั้งฮั่วซิน จำกัด
Printer      :   บริษัท ทั้งฮั่วซิน จำกัด
Post-Press  :  บริษัท ทั้งฮั่วซิน จำกัด

        สิ่งพิมพ์ที่พบเห็นโดยทั่วไปประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญหลายอย่าง ได้แก่      ตัวอักษรหรือข้อความ ภาพประกอบ เนื้อที่ว่างและส่วนประกอบอื่น การออกแบบสิ่งพิมพ์ต้องคำนึงถึงการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ดังกล่าวเข้าด้วยกันมากมาย และสิ่งพิมพ์ชนิดที่ยกตัวอย่างมานี้มี การออกแบบที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมาก เพราะเป็นที่คุ้นเคยและรู้จักในหมู่ของคนที่ชอบทานกาแฟ การออกแบบมีความน่าสนใจ จดจำง่าย  โดยใช้ถ้วยกาแฟที่มีกาแฟในถ้วยและมีควันลอยออกมาเป็นจุดเด่นตรงกลาง โดยรูปถ้วยกาแฟดังกล่าวสื่อได้ถึงการดื่มกาแฟที่มีรสชาติดี น่ารับประทาน กลมกล่อม อีกทั้งยังใช้รูปเมล็ดกาแฟที่ใช้หมายความถึง ความสด ความเป็นธรรมชาติ ข้อความ การเลือกใช้ตัวอักษรเป็นแบบเดียวกัน อ่านง่าย  ตัวอักษรใช้เล็กและใหญ่สลับกัน และเลือกใช้ภาพสีทั้งหมด สีที่ใช้ในรูป เป็นสีแนวโทนสีทึบ เพราะสื่อถึงรสชาตที่เข้มข้นของกาแฟ  และทิศทางการวางรูปโดยรวมถือได้ว่ามีความเหมาะสม

      และคงจะปฏิเสธกันไม่ได้ว่า ในปัจจุบันนี้ สิ่งพิมพ์เพื่อการบรรจุภัณฑ์ เนสกาแฟ เป็นที่รู้จักและยอมรับในจำนวนคนหมู่มาก และจำได้กับรูปแบบหลักๆ แม้ว่าสิ่งพิมพ์ดังกล่าวจะเปลี่ยนไปใช้สีอื่นก็ตาม

ข้อมูลอ้างอิง
http://www.thaiprintawards.com/tp2010/download/awards4.htm